เทคโนโลยี RFID ที่พบได้ในชีวิตประจำวัน

 

เทคโนโลยี RFID ในชีวิตประจำวันพบได้จากที่ไหน?

ในชีวิตประจำวันของเรา ทุกคนล้วงต้องพบเจอกับการใช้เทคโนโลยี RFID โดยส่วนใหญ่ไม่รู้ตัว วันนี้ Easetrack จะมาบอกเล่าเรื่องราวผ่านในบทความนี้ เราจะมาดูตัวอย่างบางส่วนที่เราพบเจอในทุกๆวัน บางทีคุณอาจจะแปลกใจกับจำนวนครั้งที่คุณใช้และพบเจอกับเทคโนโลยี RFID ในชีวิตประจำวันของคุณเลยก็ได้

 

ดังที่คุณอาจทราบแล้วว่า ชื่อย่อ RFID หรือ Radio Frequency Identification หมายถึงการระบุเอกลักษณ์ด้วยคลื่นวิทยุ แนวคิดพื้นฐานของการดำเนินงานของมันคือ “เสาอากาศส่งและรับสัญญาณวิทยุ” สัญญาณเหล่านี้ได้รับและส่งกลับโดยแท็ก RFID พร้อมข้อมูลที่เพิ่มเข้าไปในแท็ก RFID เครื่องอ่านที่รับค่าข้อมูลเข้ากับระบบจะยอมรับและจัดเก็บข้อมูลเหล่านี้ และสุดท้ายจะเกิดการระบุตัวตนและที่ตั้งของแท็ก RFID นั้น

 

 

ตัวอย่างเทคโนโลยี RFID เหล่านี้คือสิ่งที่เราพบเจอในชีวิต

 

การชำระเงินด้วยวิธีการขนส่ง: การขนส่งสาธารณะและค่าผ่านทาง

เพื่อขจัดความล่าช้าในการเก็บค่าผ่านทางทางถนน Electronic Tolls Collection (ETC) จะเก็บค่าผ่านทางทางอิเล็กทรอนิกส์ รถยนต์ไม่จำเป็นต้องหยุดเมื่อผ่านด่านเก็บค่าผ่านทาง การชำระเงินจะเป็นอัตโนมัติหากรถลงทะเบียนในโปรแกรม และหากไม่เป็นเช่นนั้น ระบบจะส่งเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดการกระทำ เช่น อย่าปล่อยให้รถผ่านไป หรือถ่ายรูปภาพไว้ หากว่าคุณไม่ขับรถ แต่เมื่อคุณเดินทางรอบเมือง คุณจะใช้ RFID ในการขนส่งสาธารณะด้วย เนื่องจากการชำระเงินค่าเข้าและการควบคุมทางออกสามารถทำได้ด้วยแท็ก RFID ในบัตรโดยสารแบบชำระเงินล่วงหน้า

 

 

การจัดการสินทรัพย์

ปัจจุบันองค์กรที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพที่สุดกำลังใช้เทคโนโลยี RFID เพื่อติดตามทรัพย์สินโดยใช้ระบบโซลูชั่น RFID จะช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาทรัพย์สินสูญหาย โดยติดตามด้วยตนเอง ด้วย RFID ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความถูกต้องของข้อมูลที่บริษัทมี เกี่ยวกับสินค้าอย่างต่อเนื่องและทันที ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณอยู่ในโรงแรม เครื่องมือ เครื่องจักร และสิ่งของอื่นๆ รวมถึงวัสดุสิ้นเปลืองแบบใช้แล้วทิ้งสามารถติดตามหรือควบคุมได้โดยแท็ก RFID

 

 

โลจิสติกส์

การติดแท็กสินค้าและพาเลท คุณสามารถรู้ได้ทันทีว่าคุณมีสินค้าอะไรบ้าง จำนวนสินค้าเท่าใด และอยู่พื้นที่ไหนในคลังสินค้าหรือร้านค้าของคุณ ทันทีที่สินค้าเข้า
คุณลองจินตนาการดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากบริษัทอาหารขนาดใหญ่ไม่สามารถควบคุมผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในสต็อกได้อย่างต่อเนื่องและทันทีทันใด เมื่อคุณซื้อสินค้าที่ซูเปอร์มาร์เก็ต คุณจะไม่ทราบว่าสินค้าอยู่ที่ไหน แต่ด้วยเทคโนโลยี RFID ทำให้สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของสินค้าเหล่านั้นได้

 

 

สินค้าคงคลังและคลังสินค้า

วัตถุประสงค์หลักของการใช้ RFID คือการเพิ่มประสิทธิภาพของคลังสินค้าโดยลดต้นทุนงานและโลจิสติกส์ ในทำนองเดียวกันเพื่อให้ได้สินค้าคงคลังที่แม่นยำทันทีพร้อมรายละเอียดทุกประเภท เช่น ขนาด คุณภาพ จำนวน และอื่นๆ การนับสินค้าคงคลังที่มีราคาแพงและไม่ถูกต้องนั้นไม่จำเป็นอีกต่อไป ระบบโซลูชั่น RFID นี้จะช่วยประหยัดเงินและเวลา

 

 

บัตรประจำตัวสัตว์

การติดแท็กที่สัตว์ด้วย RFID เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับเกษตรกร เพื่อระบุสัตว์แต่ละตัวด้วยข้อมูล เช่น แหล่งกำเนิด เลือด รายละเอียดทางการแพทย์ ฯลฯ ตลอดจนด้วยความช่วยเหลือของซอฟต์แวร์ เพื่อให้ข้อมูลอัปเดตอยู่เสมอโดยการอัปโหลดข้อมูลใหม่ เหมือนการไปพบสัตวแพทย์

 

 

ทางการแพทย์

เทคโนโลยี RFID ในโรงพยาบาลมีอยู่หลายรูปแบบ ตั้งแต่การติดตามเครื่องมือผ่าตัดไปจนถึงการติดตามบุคคล เช่น ผู้ป่วย ผู้มาติดต่อ และเจ้าหน้าที่ มีเหตุผลสำคัญหลายประการในการใช้เทคโนโลยี RFID ในอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพ ตั้งแต่การลดข้อผิดพลาดทางการแพทย์ เช่น การสูญเสียเครื่องมือการผ่าตัดที่จำเป็น หรือลืมฟองน้ำสำหรับการผ่าตัดภายในผู้ป่วย ตลอดจนลดต้นทุนทางเศรษฐกิจ หรือเพิ่มความปลอดภัยในอาคารดูแลสุขภาพ
เทคโนโลยี RFID ที่พบบ่อยที่สุดในโรงพยาบาล ได้แก่ การติดตามสินค้าคงคลัง การควบคุมการเข้าถึง การติดตามพนักงานและผู้ป่วย เครื่องมือติดตาม การติดตามวัสดุสิ้นเปลืองแบบใช้แล้วทิ้ง การติดตามอุปกรณ์ขนาดใหญ่/ราคาแพง การติดตามการซักรีด ฯลฯ

 

 

ด้านอาคาร กีฬา การท่องเที่ยว

ระบบควบคุมการเข้าออก RFID ทำงานเพื่อระบุว่าใคร ที่ไหน และเมื่อเข้าไปในอาคารหรือห้อง การมีข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลในองค์กรหรืองานกิจกรรม เช่น การแข่งขันกีฬาหรือเทศกาลดนตรี ถือเป็นประโยชน์ รวมถึงการอนุญาตหรือปฏิเสธไม่ให้บุคคลในสถานที่เฉพาะเข้าไปด้วย ฟังก์ชันเดียวกันนี้สามารถทำได้ในบริษัทเพื่อควบคุมตารางเวลาของพนักงาน สถานที่ที่พวกเขาเข้าถึงภายในบริษัท และการควบคุมบุคคลที่เข้าออกสำนักงานของบริษัท

 

 

หนังสือเดินทาง

หนังสือเดินทางที่มีชิปฝังอยู่เรียกว่าหนังสือเดินทางที่มีการบันทึกข้อมูลชีวภาพ (Biometric Data) หนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-Passport) หรือหนังสือเดินทางดิจิทัล (Digital Passport) ชิปนี้มีข้อมูลข้อมูลชีวภาพที่ใช้ในการตรวจสอบตัวตนของผู้ถือหนังสือเดินทาง ข้อมูลที่จัดเก็บไว้ในชิป RFID ของ e-passport ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละประเทศ โดยปกติข้อมูลที่จัดเก็บได้แก่ ชื่อ วันเดือนปีเกิด เพศ สัญชาติ และรูปถ่ายในรูปแบบดิจิทัล ข้อมูลเกี่ยวกับหนังสือเดินทางก็อยู่ในชิปด้วย เช่น หมายเลข วันที่ออกและสถานที่ และวันหมดอายุ ข้อมูลชีวภาพมาตรฐานที่ใช้สำหรับระบบระบุตัวตน ได้แก่ การจดจำใบหน้า การจดจำลายนิ้วมือ หรือการจดจำม่านตา

 

 

ซุปเปอร์มาร์เก็ตในอนาคต

ลองนึกภาพการเข้าร้านค้าและหยิบสินค้าที่คุณต้องการซื้อและเดินออกจากร้านโดยไม่ต้องต่อแถวในการชำระเงิน สต็อกสินค้าของร้านค้าจะอัปเดตทันทีในขณะที่คุณกำลังรับสินค้า และคุณสามารถตรวจสอบยอดรวมค่าใช่จ่ายบนมือถือของคุณได้ และเทคโนโลยี RFID กำลังจะเข้ามาเปลี่ยนการค้าปลีกในอนาคต

 

 

ห้องสมุดและพิพิธภัณฑ์

RFID ถูกนำไปใช้ในพิพิธภัณฑ์ ห้องสมุด และสภาพแวดล้อมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องโดยส่วนใหญ่ในสามวิธี:

    • การติดตามวัตถุ: การจัดการสินค้าคงคลังทั้งหมดของคอลเลกชันเป็นงานที่ยิ่งใหญ่และใช้เวลานาน
    • ระบบรักษาความปลอดภัย: การปกป้องทรัพย์สินจากการโจรกรรมถือเป็นประเด็นสำคัญในพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ เทคโนโลยี RFID ให้ความปลอดภัยโดยการติดตามการเคลื่อนไหวของวัตถุที่ติดแท็กโดยอัตโนมัติซึ่งสามารถระบุตำแหน่งได้ทันที
    • ประสบการณ์ของผู้เยี่ยมชม: มีข้อมูลมากเกินไปที่จะใส่ในป้ายเดียว ประสบการณ์ของผู้เข้าชมกลับมีความสมบูรณ์และน่าสนใจมากขึ้นหากพวกเขาถูกนำไปยังแหล่งข้อมูลเสมือนที่เชื่อมโยงกับแท็ก

 

 

ด้านการแข่งขันกีฬา

ในการแข่งขันกีฬาหลายๆ รายการ เช่น การแข่งขัน ผู้เข้าร่วมจะต้องจับเวลาอย่างแม่นยำ วิธีที่ดีที่สุดคือการติดแท็กผู้เข้าร่วมและติดตามจุดต่างๆเมื่อพวกเขาผ่านจุดควบคุมจะได้รับความแม่นยำมากที่สุด

 

 

ข้อสรุป

แม้ว่า RFID นี้ หลายคนฟังชื่อแล้วไม่คุ้นเคย ไม่รู้จักกัน แต่พอได้เห็นการใช้งานแล้ว ก็ต้องบอกได้เลยว่าอยู่รอบตัวเรามานานมากเลยทีเดียว โดยทั้งหมดที่กล่าวไปข้างต้นนั้นเป็นแค่ตัวอย่างที่หยิบยกมาให้ทุกคนได้เห็นว่า เทคโนโลยี RFID แทรกซึมและสามารถพบเจอได้ในชีวิตประจำวันเราแทบจะตลอดเวลา จะเห็นได้ว่า RFID ถูกนำมาช่วยด้านต่างๆ เช่น บัตรโดยสารรถไฟฟ้าหรือตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ ที่เราใช้แตะเข้าแตะออกสถานีเวลาเดินทาง ตรวจสอบเรื่องคุณภาพ เวลาการผลิต การเข้าออกอาคารสำนักงาน และการคิดค่าแรงพนักงาน เป็นต้น จึงปฎิเสธไม่ได้เลยว่า RFID นั้นมีความสำคัญกับชีวิตของเรามากเลยทีเดียว

 

ขอบคุณข้อมูลจาก: trace id

รูปภาพ: unsplash, freepik & pixabay

Share to everyone